มาเริ่มเรียนภาษาอังกฤษด้วยบทเรียนง่าย ๆ กันเถอะ(Let’s Start Learning English with Easy Lessons)

การเรียนภาษาต่างประเทศอาจเป็นเรื่องท้าทายในตอนแรกๆ และในการเรียนภาษาอังกฤษนั้น ผู้เรียนใหม่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การเรียนรู้ตัวอักษรไปจนถึงการทำความเข้าใจคำประเภทต่างๆ อย่างเช่น คำนาม (Nouns) คำวิเศษณ์ (Adverbs) คำคุณศัพท์ (Adjectives) ฯลฯ ในการเรียนบทเรียนเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะพื้นฐานของภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น

รู้ ABCs และ 123s

ขั้นตอนแรกในการเรียนรู้ภาษาใดๆ ก็ตามคือการทำความคุ้นเคยกับตัวอักษรของภาษานั้นๆ ซึ่งในภาษาอังกฤษเริ่มต้นด้วยตัว A และต่อไปจนถึง Z โดยมีทั้งหมด 26 ตัวอักษร

ในขณะเดียวกัน เราก็ควรที่จะการเรียนรู้ตัวเลขเป็นภาษาอังกฤษควบคู่กันไปด้วย ฝึกการออกเสียงและเขียนตัวเลขนับ ตัวเลขลำดับที ฯลฯ ซึ่งจะมีประโยชน์มากในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการซื้อของ เป็นต้น

รู้หลักไวยากรณ์(Grammar) ขั้นพื้นฐาน

ภาษาอังกฤษมีคำพื้นฐานต่างๆอยู่แปด (8) ประเภทด้วยกัน เรียกว่า ‘Parts of Speech’ ที่จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจหลักไวยากรณ์ และ นำไปสร้างประโยคที่สมบูรณ์เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้าใจเราได้ คำเหล่านี้คือ คำนาม (Nouns) คำสรรพนาม (Pronouns) คำคุณศัพท์ (Adjectives) คำกริยา (Verbs) คำวิเศษณ์ (Adverbs) คำสันธาน (Conjunctions) คำบุพบท (Prepositions) และ คำอุทาน (Interjections) ซึ่งผู้เรียนสามารถศึกษา หาอ่านเกี่ยวการใช้คำเหล่านี้อย่างง่ายๆในสื่อทั่วไป

ฝึกหลักการสะกดคำ

อย่าว่าแต่ผู้เรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 เลย แม้แต่เจ้าของภาษาหลายคนก็ยังมีปัญหาในการสะกดคำ มันจึงเป็นเรื่องท้าทายที่เราจะสะกดคำให้ถูกทั้งหมดในเวลาอันสั้น ดังนั้นยิ่งผู้เรียนขยันมากเท่าไหร่—โดยเฉพาะขยันอ่าน--ก็จะยิ่งเก่งขึ้นเร็วเท่านั้น โดยปกติในชั้นเรียน ภาษาอังกฤษผู้สอนก็จะแบ่งปันกฎการสะกดคำพื้นฐานให้ผู้เรียนอยู่แล้ว เช่น เมื่อใดควรใช้อักษรตัวพิมพ์ใหญ่และเมื่อใดควรใช้ ie หรือ ei เป็นต้น

รู้ความแตกต่างระหว่าง คำกริยา (Verbs) คำวิเศษณ์ (Adverbs) และ คำคุณศัพท์ (Adjectives)

คำที่อาจจะทำให้เราสับสนแต่มีความสำคัญที่สุดในภาษาอังกฤษ ได้แก่ คำกริยา คำวิเศษณ์ และคำคุณศัพท์ คำเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้เริ่มต้นเรียนภาษาควรรู้ และคำแต่ละประเภทมีการใช้งานที่แตกต่างกันตามหลักไวยากรณ์

คำกริยา (Verbs) เป็นคำที่บอกการกระทำ บอกเราว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้น และ คำกริยาจะเปลี่ยนรูปขึ้นอยู่กับว่าการกระทำนั้นเกิดขึ้นในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต นอกจากนี้ยังมีกริยาช่วย เช่น be, do, have ซึ่งเราจะเห็นอยู่ในเกือบทุกประโยค

คำวิเศษณ์ (Adverbs) เป็นคำขยายคำกริยา เป็นการอธิบายคำกริยาเหล่านั้นให้ชัดเจนขึ้น เช่น quickly (อย่างเร็ว) never (ไม่เคย) ฯลฯ ส่วนคำคุณศัพท์ (Adjectives) ใช้ขยายคำนาม และ ยังอธิบายลักษณะต่าง ๆ ของคำนามนั้นๆเพิ่มด้วย ตัวอย่างเช่น beautiful (สวย) fair (ผิวขาว) สูง (tall) ฯลฯ

เคล็ด (ไม่) ลับอื่นๆ ในการเรียนภาษาอังกฤษ

นอกจากคำแนะนำที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในการเรียนภาษาอังกฤษผู้เรียนต้องเรียนรู้เรื่องอื่นๆอีกมากมาย หากไม่นับรวมบทเรียนในชั้นเรียน และ บทเรียน on-line แล้วยังมีสื่อการเรียนอีกมากมายที่เราสามารถค้นคว้า หาอ่านเพิ่มเติมได้ เพราะไม่ว่าจะเรียนภาษาใดๆ ก็ต้องอาศัยการฝึกฝนในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอเพื่อนำไปสื่อสารจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

และยังมีเคล็ด (ไม่) ลับ อื่นๆที่นักเรียนอาจนำไปใช้ประโยชน์ในการเรียนภาษาได้ ดังนี้:

• อย่างแรกเลยคือการ ถาม หรือ ขอความช่วยเหลือในชั้นเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียน ข้อนี้สำคัญมากเพราะบางทีผู้สอนอาจไม่รู้ว่านักเรียนไม่เข้าใจ ดังนั้น การรู้วลี หรือ ประโยคง่ายๆในการถาม หรือ ขอความช่วยเหลือ ก็นับว่ามีประโยชน์อยู่ไม่น้อยเลย

• สร้างลิสท์คำศัพท์ของเราเอง ด้วยการศึกษาคำที่พบบ่อยที่สุดในภาษาอังกฤษไว้ซัก 50 คำก่อน คำเหล่านี้ควรเป็นคำง่ายๆ ที่เราใช้ตลอดเวลา อย่างเช่น and, yes, no ฯลฯ

• การบอกเวลาก็สำคัญเช่นกัน และจากประสบการณ์การของผู้เขียน ผู้เรียนสามารถเรียนเรื่องการบอกเวลาไปพร้อมกับบทเรียนเรื่องตัวเลขได้ และ จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจบทเรียนเรื่องตัวเลขมากขึ้น และ นำไปใช้ได้จริง

โดย อุมาภรณ์ ชัยศรี - ทีมงาน ESL Training @ Work

หมายเหตุ: บทความนี้ได้ไอเดียมาจากบทความของ thoughtco.com

Cr. ภาพ (photo): by Max Fischer/ Pexels

#esl #english #language #learning #training #tips #englishtips #englishclass #englishcourse #languagelearning #englishforwork #EnglishForLife #thinkoutsidethebox #tips #easyenglish #wordsyoudontknow #esltrainingatwork